พระเจ้าเบซิลที่ 2




จักรพรรดิเบซิลที่ 2 มีชื่อเต็มๆว่า "เบซิล บุลการ็อคโตนัส" แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ ขอเกริ่นเรื่องเกี่ยวกับจักรวรรดิไบแซนไทน์ก่อนนะครับ

ค.ศ. 867–1025 ความสงบชั่วคราวทำให้จักรวรรดิไบแซนไทน์กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง เพราะจักรวรรดิมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา การเมืองภายในสงบ มึการขยายดินแดน เศรฐกิจก็มั่นคง ความก้าวหน้าด้านศิลปวิทยาการก็เจริญ ด้วยการปกครองของจักรพรรดิที่มาจากราชวงศ์มาซิโดเนีย โดยมีจักรพรรดิที่สำคัญได้แก่ เบซิลที่ 1 และเบซิลที่ 2

แท้จริงตำแหน่งจักรพรรดิของไบแซนไทน์นั้นมาจากการเลือกตั้งทำให้ราชวงศ์มาซิโดเนียสามารถเข้ามาเป็นผู้นำได้ อีกทั้งด้วยผลงานของจักรพรรดิเบซิลที่ 1 ที่สามารถมีชัยชนะต่อกองทัพอาหรับ และสามารถขยายดินแดนไปยุโรปตะวันออก อีกทั้งยังยืนยันในการเป็นจักรวรรดิผู้นำคริสต์ศาสนานิกายออร์ทอดอกซ์ไปเผยแพร่อีกด้วยทำให้พระองค์ได้รับความนิยมอย่างมาก



จักรวรรดิไบแซนไทน์ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเบซิลที่ 2


ช่วงปลายรัชสมัยของจักรพรรดิเบซิลนั้นพระองค์สามารถเป็นพันธมิตรกับบัลแกเรียได้ด้วยนโยบายทางศาสนาแต่ก็กลายเป็นปัญหากับไบแซนไทน์มากกว่าที่เคยมีกับอาหรับ โดยจักรพรรดิเบซิลที่ 2 ได้ทำสงครามอย่างยาวนานกับบัลแกเรียนานหลายปี จนกระทั่งปี ค.ศ. 1018 บัลแกเรียก็พ่ายแพ้และตกเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ชัยชนะที่มีต่อบัลแกเรียนี้ทัให้ไบแซนไทน์สามารถขยายอาณาเขตในยุโรปตะวันออกไปไกลอีกคือ เซอร์เบีย โครเอเชีย แต่อำนาจของและความรุ่งเรืองของจักรวรรดิไบแซนไทน์เริ่มเสื่อมลงเรื่อย ๆ หลังจากที่จักรพรรดิเบซิลที่ 2 สวรรคตในปี ค.ศ. 1025

มาเข้าเรื่องกันต่อนะครับ พระเข้าเบซิลที่ 2 เป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิไปแซนไทน์ 976 - 1025 ที่มีทั้งด้านดีและไม่ดี เนื่องจากพระองค์เป็นผู้ปกครองที่มีความสามารถและความรุ่งโรจน์ หากแต่อีกด้านนึง พระองค์ยังเป็นผู้ปกครองที่โหดร้ายและเลือดเย็นในประวัติศาสตร์ ใครที่คิดตั้งตนเป็นศัตรูกับเขา รวมไปถึงชาวอาหรับที่คิดก่อกบฏและคู่แข่งทางการเมืองจะถูกกำจัดจนหมดสิ้น พวกเขาจะถูกบังคับให้จ่ายเงินภาษีที่สูงมากๆไม่ก็ยึดดินแดนหรือเนรเทศและจำคุกตลอดชีวิต

พระองค์ชอบทำสงครามโดยเฉพาะกับบัลแกเรียที่กินเวลานานกว่า 30 ปี ตลอดที่ทำสงครามพระองค์ฆ่าศัตรูและนักโทษของพระองค์มากมายในการรบที่ Kleidon พระองค์ฆ่าทหารบัลแกเรียไป 15,000 คน!! และนักโทษอีก 15,000 คน (30,000 กว่าคน โหดร้าาาย) ให้ตายอย่างทกข์ทรมาน บางรายใช้มีดสั้นควักลูกตาและปล่อยให้ตายอย่างทุกข์ทรมาน (TT) นอกจากนี้ยักควักลูกตาของสตรีและเด็กอีกมากมายนับไม่ถ้วน!! สุดท้ายเขาก็ได้ตายลงในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1025

เล่ากันว่าพระองค์จะทรงควักลูกตาทั้งสองข้างของเชลยทุกคน และทุกๆคนที่ 100 พระองค์จะทรงเหลือดวงตาไว้ให้หนึ่งข้าง เพื่อที่จะให้เชลยพวกนี้มีคนที่มองเห็นด้วยตาข้างเดียวพากลับไปหากษัตริษ์ของพวกเขาได้!!! (ยังมีน้ำใจอีกนะ)




ข้อมูลโดย : wikipidia และ หนังสือต่วยตูน



สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 4 : บูเช็กเทียน
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1182134/1
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 3 : อัตติลา เดอะ ฮั่น
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1153400
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 2 : พระเจ้าเฮโรดมหาราช
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1152716
สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 1 : กษัตริย์อัสเชอร์บานิปาล
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1152578


ขออภัยเรื่องรูปน้อยด้วยนะครับ หาไม่มีเลยจริงๆ

ชอบยังไงก็แผล่บให้ผมด้วยนะครับ จะเป็นกำลังใจให้ผมมาก เพื่อนสามารถไปอ่านตอนเก่าๆได้ตามลิงค์ข้างบนเลยครับ

จะตามอ่านเรื่อย ๆ น่ะ

ขอบคุณครับ

จะติดตามด้วยอีกคนครับ
อ่านเพลินๆๆเบย

ขอบคุณครับผม จะเขียนเรื่อยๆนะครับ แต่ต้องว่างก่อน 555

มีเรียนทั้งวันเลยบางวัน

จักรพรรดิ์เบซิลสั่งให้แบ่งเชลยออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละ100คน จากนั้นก็ให้จัดการควักลูกตาเชลยบุลการ์ออกทั้งสองข้าง 99 คน เหลือแต่คนที่ 100 ที่ถูกควักลูกตาเพียงข้างเดียวเพื่อนำทางอีก99คน

ปู๊นๆ รถไฟมาแล้ว ฉึกฉักๆๆ...

เมื่อซาร์ซามูเอลเห็นขบวนรถไฟบุลการ์เดินกลับมายังที่พำนักพระองค์ เมื่อเห็นกองทัพสุดท้ายที่ตนเหลืออยู่ถูกทำให้พิการเสียแล้ว... ซามูเอลก็ถึงกับเกิดอาการหยุดหายใจไปโดยทันที หรือช็อคตายนั่นเอง

และบัลกาเรียทั้งประเทศก็ถูกผนวกมาเป็นดินแดนของชาวกรีกอีกไปอีกเกือบสองร้อยปี

ส่วนเบซิลก็ได้รับพระฉายา "ผู้สังหารชาวบุลการ์"หรือ Boulgaroktonos เป็นที่ระทึก

จะติดตามอ่านนะครับเป็นกำลังใจให้

ชอบมากครับ เป็นกำลังใจให้ เอามาลงอีกนะครับ